Lot คืออะไร เทรด Forex หรือเทรดทองก็ต้องคำนวณให้ดี เท่าไหร่ถึงไม่ overtrade

Lot คืออะไร

การกำหนดขนาด Lot ที่ดี ควรพิจารณาจากหลายปัจจัยทั้งเงินทุน ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ระยะตัดขาดทุน ความผันผวนของตลาด พร้อมกับรักษาวินัยในการใช้ Lot ตามแผน อย่าให้อารมณ์ความโลภหรือความกลัวมาบิดเบือนการตัดสินใจ และปรับขนาดให้สอดคล้องกับเงินทุนและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย

Lot คือ หน่วยวัดขนาดของสัญญาในการซื้อขายตราสารทางการเงิน

Lot คืออะไร

Lot คือ หน่วยวัดขนาดของสัญญาในการซื้อขายตราสารทางการเงิน เช่น Forex, สินค้าโภคภัณฑ์ หรือ CFD ต่างๆ ใช้เพื่อกำหนดปริมาณสินทรัพย์ที่ต้องการซื้อหรือขายในแต่ละครั้ง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อกำไรและขาดทุนที่จะเกิดขึ้น

  • ในตลาด Forex แบ่งขนาดของ Lot เป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ Standard Lot, Mini Lot และ Micro Lot
    • Standard Lot มีขนาดเท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก เช่น 1 Standard Lot ในคู่สกุลเงิน EUR/USD จะมีมูลค่าเท่ากับ 100,000 EUR
    • Mini Lot มีขนาดเท่ากับ 10,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก หรือคิดเป็น 1 ใน 10 ของ Standard Lot
    • Micro Lot มีขนาดเท่ากับ 1,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก ซึ่งเล็กที่สุดและเหมาะกับการฝึกเทรดหรือผู้ที่มีเงินทุนน้อย
  • ขนาดของ Lot ในการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์จะแตกต่างกันไป เช่น 1 Standard Lot ทองคำมีขนาดเท่ากับ 100 ทรอยออนซ์ (oz)

เมื่อเปิดคำสั่งซื้อหรือขาย จำนวน Lot จะบ่งบอกปริมาณสินทรัพย์ที่อยู่ในสัญญานั้น และจะสัมพันธ์กับกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของราคา ยิ่งซื้อขายด้วย Lot ขนาดใหญ่ โอกาสทำกำไรหรือขาดทุนก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นควรเลือกขนาด Lot ให้เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ นักเทรดมักใช้ Lot เป็นส่วนหนึ่งในการบริหารความเสี่ยง โดยจำกัดขนาด Lot ให้สอดคล้องกับเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อเงินทุนทั้งหมดในบัญชี

ขนาดของ lot

  • “หากต้องการคำนวณขนาด Lot ที่เหมาะสม ให้ใช้สูตร: จำนวน Lot = (เงินทุน x % ความเสี่ยงที่ยอมรับได้) ÷ มูลค่าความเสี่ยง (ระยะจากราคาเปิดถึง Stop Loss)”

นอกจากการคำนวณขนาด Lot ตามสูตรแล้ว นักเทรดยังสามารถใช้เครื่องมือคำนวณ Lot Size ออนไลน์ หรือ Lot Size Calculator ที่มีให้ใช้งานฟรีบนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มการเทรดต่างๆ เพื่อช่วยคำนวณขนาด Lot ที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว

  • การเลือกขนาด Lot ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยจำกัดความเสี่ยง แต่ยังช่วยให้นักเทรดสามารถกระจายความเสี่ยงไปในหลายๆ สินทรัพย์ได้ดีขึ้น แทนที่จะลงทุนเต็มจำนวนในสินทรัพย์เพียงไม่กี่ตัว
  • หากเป็นมือใหม่ในการเทรด แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการซื้อขายในขนาด Micro Lot หรือ Mini Lot ก่อน เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจกลไกตลาด รวมถึงฝึกฝนการบริหารความเสี่ยงและจิตวิทยาการเทรด ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มขนาด Lot ขึ้นเมื่อมีความมั่นใจและสม่ำเสมอในผลกำไรมากขึ้น

เมื่อมีการซื้อขายหลาย Lot ในคราวเดียวกัน เรียกว่าการเทรดแบบ “Multiple Lots” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่นักเทรดบางคนใช้เพื่อเพิ่มปริมาณการซื้อขาย แต่ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน จึงต้องวางแผนและบริหารความเสี่ยงให้ดี

ซึ่งในทางกลับกัน หากต้องการซื้อขายในปริมาณที่น้อยกว่า Micro Lot นักเทรดบางแพลตฟอร์มอาจเลือกเทรดแบบ “Fractional Lot” หรือเศษส่วนของ Lot ซึ่งมีขนาดเล็กมาก และเหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินทุนจำกัดหรือต้องการควบคุมความเสี่ยงแบบละเอียด

คำนวณขนาด Lot ในการเทรดทองคำอย่างเหมาะสม

คำนวณขนาด Lot ในการเทรดทองคำอย่างเหมาะสม

  • กำหนดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อการเทรด 1 ครั้งไม่เกิน 1-2% ของเงินทุน เพื่อป้องกันการขาดทุนหนัก
  • หาจุดเข้า จุดตัดขาดทุน (SL) และจุดทำกำไร (TP) จากการวิเคราะห์กราฟ
  • เลือกเทรดคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูง เช่น EUR/USD, GBP/USD ซึ่งมีความผันผวนและสเปรดต่ำกว่า
  • วิเคราะห์กราฟหาแนวรับ-ต้าน จุดกลับตัว และระดับสำคัญ เพื่อวางแผนจุดเข้า, Stop Loss, Take Profit
  • แปลงความเสี่ยงเป็น Pips = เงินที่ยอมเสีย ÷ $10 (เพราะทองคำ เคลื่อน 1 Pip = $10)
  • คำนวณ Lot ที่เหมาะสม = (เงินทุน x % ความเสี่ยง) ÷ (Pips ระหว่างราคาเปิดกับ SL x $10)
  • ลด Lot ลงเมื่อตลาดผันผวนมาก และเพิ่ม Lot ได้บ้างเมื่อมีทิศทางชัดเจน
  • แบ่งเป็นหลาย Lots เพื่อกระจายความเสี่ยง เช่น 0.2 Lot x 5 ครั้ง แทนที่จะเทรด 1 Lot ครั้งเดียว
  • ปรับ Lot ตามผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไป ถ้ากำไรเพิ่มก็เพิ่ม Lot ได้ ถ้าขาดทุนเกินแผนก็ลด Lot ลง
  • คนเขียนขอแนะนำว่า ควรมีเงินอย่างน้อย $1,000 ในบัญชีเพื่อเริ่มเทรดทอง จะได้ปรับ Lot ให้เล็กลงพอที่จะควบคุมความเสี่ยงได้
  • ลองเทรดในบัญชีเดโม่ก่อน เพื่อทำความเข้าใจและคำนวณ Lot ให้คล่องขึ้น ก่อนลงเทรดเงินจริง
  • ใช้โปรแกรมคำนวณ Position Size ที่มีให้ใช้ฟรีตามเว็บไซต์ เพื่อความรวดเร็วและแม่นยำ
  • รักษาวินัยในการใช้ Lot ตามแผน อย่าให้อารมณ์ความโลภหรือความกลัวมาบิดเบือนการตัดสินใจ
  • จดบันทึกข้อมูลการเทรดแต่ละครั้ง แล้วย้อนประเมินความเหมาะสมของ Lot ที่ใช้ เพื่อปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น
  • ดูตัวอย่าง การคำนวณ Lot ให้เข้าใจแจ่มแจ้ง

ควรกำหนดขนาด Lot โดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้ วิเคราะห์กราฟเทคนิคเพื่อวางแผนจุดเข้าออก แล้วจึงคำนวณด้วยสูตรตามหลักการจัดการความเสี่ยง ปรับ Lot ได้ตามสภาวะตลาด ใช้อารมณ์ให้เป็นและบันทึกข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ Lot ให้ดีที่สุด

Lot เท่าไหร่ถึงไม่ overtrade

Lot เท่าไหร่ถึงไม่ overtrade

การเลือกขนาด Lot ที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการ Overtrade ในตลาด Forex มีหลักการดังนี้

  • กำหนดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อเงินทุน ก่อนอื่นต้องกำหนดว่ายอมรับความเสี่ยงได้สูงสุดกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินทุน หากเกิดการขาดทุนในแต่ละออร์เดอร์ โดยทั่วไปนิยมกำหนดไว้ที่ 1-2% ซึ่งจะช่วยจำกัดความเสียหายหากการเทรดนั้นขาดทุน
  • คำนวณความเสี่ยงเป็นตัวเงิน หากมีเงิน 10,000 ดอลลาร์ในบัญชี และยอมรับความเสี่ยง 1% ต่อออร์เดอร์ ก็จะหมายความว่าสามารถขาดทุนได้ไม่เกิน 100 ดอลลาร์ต่อการเทรดแต่ละครั้ง นี่คือความเสี่ยงสูงสุดเป็นจำนวนเงิน
  • คำนวณขนาด Lot จากมูลค่าเทียบกับจำนวน Pips ถ้าจะเข้าเทรดที่ 1.1000 ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ไว้ที่ 1.0950 จะมีระยะห่างเท่ากับ 50 Pips
    • เมื่อยอมขาดทุนได้ 100 ดอลลาร์ ก็ต้องหาว่า 1 Pip มีมูลค่ากี่ดอลลาร์
    • โดยใช้สูตร: มูลค่าความเสี่ยงต่อ 1 Pip = จำนวนเงินที่ยอมเสีย ÷ ระยะ SL เป็น Pips
    • ในตัวอย่างนี้จะได้ 100 ÷ 50 = 2 ดอลลาร์ต่อ Pip แล้วนำมาคำนวณขนาด Lot ที่เหมาะสม
    • จากสูตร: ขนาด Lot = มูลค่าต่อ Pip ÷ 10
    • ดังนั้น Lot ที่ใช้เทรดครั้งนี้ควรเท่ากับ 2 ÷ 10 = 0.2 Lot เพราะถ้าราคาไปถึงจุด SL ก็จะขาดทุนไม่เกิน 1% ของพอร์ตตามที่คำนวณไว้

การนำยอดเงินในบัญชี (Balance) มาหารด้วย 10,000

นอกจากการคำนวณแบบละเอียดแล้ว ยังมีวิธีง่ายๆ ที่ได้ผลพอสมควรคือการนำยอดเงินในบัญชี (Balance) มาหารด้วย 10,000 เช่น ถ้ามีเงิน 1,000 ดอลลาร์ในบัญชี ก็จะได้ขนาด Lot ที่แนะนำคือ 0.1 Lot ต่อการเทรด 1 ครั้ง

จุดเด่น ของวิธีนี้คือขนาด Lot จะปรับตามเงินทุนโดยอัตโนมัติ ถ้ามีเงินมากก็เทรดได้มากขึ้น ถ้าเงินลดลงก็ควรลดขนาดลง แต่ก็มีข้อจำกัดเพราะไม่ได้คำนึงถึงความผันผวนหรือระยะตัดขาดทุนที่แตกต่างกันของแต่ละคู่เงิน ทั้งนี้ยังมีหลักการอื่นๆ ที่ควรรู้ในการทำ Position Sizing เช่น:

  • พิจารณาค่าสเปรดและสภาพคล่องของคู่เงินด้วย ถ้าเป็นคู่รองที่สภาพคล่องต่ำ ค่าสเปรดอาจสูงกว่าปกติ ซึ่งต้องเผื่อ SL ให้กว้างขึ้นและปรับลดขนาด Lot ลง
  • ควรปรับ Lot ลดลงเมื่อตลาดผันผวนสูง แต่ปรับเพิ่มได้บ้างเมื่อมีสัญญาณชัดเจนและมีโอกาสทำกำไรสูง
  • แทนที่จะเข้าเทรด 1 Lot ในครั้งเดียว ให้ลองแบ่งเป็นหลายๆ ออร์เดอร์ เช่น 0.2 Lot 3-5 ครั้ง จะช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า
  • หากมีกำไรหรือขาดทุนเพิ่มขึ้น ก็ปรับขนาด Lot ตามสัดส่วนใหม่ได้
  • ใช้โปรแกรมคำนวณ Position Size ที่มีให้ใช้ฟรี จะช่วยให้การคิดง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น

สรุป

Lot เป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Forex เพราะเป็นตัวกำหนดปริมาณหรือขนาดของการเทรดในแต่ละครั้ง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผลกำไรหรือขาดทุนที่จะเกิดขึ้น รวมถึงความเสี่ยงที่ต้องแบกรับด้วย

การเลือกขนาด Lot ที่เหมาะสม จะช่วยให้การบริหารความเสี่ยงมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น หากเลือกใช้ Lot ขนาดเล็ก ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนต่อครั้งให้น้อยลง ทำให้สามารถอยู่รอดและเก็บเกี่ยวกำไรได้ในระยะยาว แต่หากใช้ Lot ที่ใหญ่เกินไป อาจทำให้เกิดการขาดทุนมหาศาลจนเงินทุนหมดได้ในพริบตา

นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนขนาด Lot ให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและสถานะพอร์ตของเรา ก็จะช่วยให้การเทรดมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น ในช่วงที่ตลาดผันผวนสูง ก็ควรลดขนาด Lot ลงชั่วคราวเพื่อลดความเสี่ยง ขณะที่เมื่อมีสัญญาณชัดเจนและโอกาสทำกำไรดี ก็สามารถเพิ่มขนาด Lot ขึ้นมาเพื่อทำกำไรให้ได้มากขึ้นด้วย

ที่สำคัญคือ Lot เองก็มีข้อเสียด้วยเหมือนกันนะ เราต้องมีวินัยในการใช้ขนาด Lot ที่คำนวณได้อย่างเหมาะสม ไม่ปล่อยให้อารมณ์ความโลภหรือความกลัวเข้ามาครอบงำจนเทรดเกินตัวหรือตัดสินใจผิดพลาด